28 กรกฎาคม 2553

การฝึกเล่นโยคะด้วยตัวเอง

โยคะคือการบำบัด เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตามที่กำหนด เน้นที่การหายใจเข้า-ออก ให้สอดคล้องกันกับท่าทางที่ฝึก
ส่วนใหญ่ผู้ที่เล่นโยคะอย่างจริงจัง มักจะนิยมทานอาหารมังสวิรัติ เพราะมีความเชื่อว่า วิธีนี้ช่วยให้จิตวิญญาณรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่น หรือวัยทำงาน อาจจะเปลี่ยนเป็นอาหารแนวชีวจิตแทนก็ได้

การฝึกโยคะส่วนมีส่วนประกอบต่างๆดังนี้คือ
-รักษาความสมดุลของร่างกาย วางอารมณ์ให้เป็นกลาง
-ความลงตัวระหว่างการฝึกทางด้านร่างกายและจิต
-บริหารร่างกายในท่าทางที่ถูกต้อง
-ชำระตนเองให้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ ยึดหลักศีลธรรม สำรวมจิตใจ มีสมาธิ

ต่อไปเป็นท่าฝึกโยคะที่ช่วยรักษารูปร่าง รวมถึงลดความอ้วน สามารถฝึกเองที่บ้านได้ค่ะ


ท่าที่ 1 ยืน




Tantra-Yoga (which includes Kundalinî-Yoga)
เป็นโยคะที่รวมหลายชนิดของโยคะรวมกัน Tantra-yoga สอนให้รู้จักด้านมืดของชีวิต เน้นพิธีการบวงสรวง เน้นการเข้าฌาณเพื่อปลุกพลังภายในร่างกาย Tantra-yoga
เน้นการประสานกายและพลังจิต

Mantra-Yoga (the path of transformative sound)
เป็นโยคะที่ไม่ซับซ้อน เน้นการสวดภาวะนาและกล่าวคำว่า โอม

Hatha-Yoga (the forceful path of physical self-transformation)
จุดประสงค์โยคะนี้เป็นการเตรียมร่างกายเพื่อให้มีพลังที่จะบรรลุสู่ความสำเร็จจะต้องประกอบด้วยการออกกำลังและฝึกลมปราณ การฝึกโยคะนี้จะทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง อดทนต่อความหิว ร้อน หรือหนาว เมื่อร่างกายและจิตใจแข็งแรงก็ทำให้ผู้ฝึกเข้าถึงสมาธิฌาณได้ง่าย




ท่าที่ 2 นั่ง



Jnâna-Yoga (the path of wisdom)


เป็นโยคะแห่งปัญญา เน้นเรื่องความจริง Realityเป็นหนึ่ง โลกที่เราคุ้นเคยมักจะมีภาพลวงตา เช่นการเห็นเชือกเป็นงู การที่จะทราบจะต้องเพ่งพินิจ การที่เราเห็นผิดเป็นชอบเรียกมายา(mâyâ)หรือหลงผิด การแก้การหลงผิดสามารถทำได้โดยการปลีกวิเวก(viveka)เมื่อรู้ว่าอะไรไม่จริงก็สละสิ่งนั้น


ท่าที่ 3 นอนคว่ำ



Karma-Yoga (the path of self-transcending action)

เป็นโยคะที่เกี่ยวข้องกับศาสนามากที่สุด มีการยึดเหนี่ยว พิธีกรรมบวงสรวงเทพเจ้า มีการสวด มีการเข้าเข้าฌาณ เทพเจ้าที่บูชาได้แก่ พระวิษณุเป็นต้นข้อดีคือผู้ฝึกจะไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีฐิติ ทำงานบริการได้ดี



ท่าที่ 4 นอนหงาย




Râja-Yoga (the royal path of meditation)

เป็นโยคะที่เน้นการเข้าฌาณเพื่อทำให้เกิดสมาธิ ซึ่งต้องการความสงบทั้งร่างกายและจิตใจ ข้อดีของการฝึกโยคะชนิดนี้คือฝึกง่ายมีวิธีปฏิบัติที่แน่นนอน เป็นการฝึกแบบวิทยาศาสตร์ ผู้ฝึกจะได้ความสงบและปัญญา ข้อเสียคือการฝึกจะต้องใช้เวลามากอาจจะทำให้ผู้ฝึกต้องแยกตัวเองออกจากสังคม


------------------------------

*เล็กๆน้อยๆนำมาฝาก*

ลองฝึกเองที่บ้านก็ได้นะคะ ~





"เต้าหู้" ประโยชน์ที่เราอาจมองข้าม

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าผู้หญิงหรือแม่กระทั่งผู้ชายส่วนใหญ่ มักจะหันมาใส่ใจกับการดูสุขภาพกันมากขึ้น การเปลี่ยนมารับประทานอาหารสุขภาพมากขึ้น แม้กระทั่งกับข้าวตามร้านอาหารต่างๆ ก็จะต้องมีเมนูสุขภาพอย่างน้อย 1 เมนูในร้านเพื่อเอาใจกลุ่มคนรักษาสุขภาพ อาหารรักษาสุขภาพนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางผัก ผลไม้ ถั่ว เต้าหู้ ถ้าเป็นประเภทมีเนื้อสัตว์ด้วย ก็จะมีน้อยมาก หรือเป็นโปรตีนเกษตรแทน คล้ายๆกับอาหารเจ แต่เรารู้หรือไม่ว่า สิ่งที่เราทานเข้าไปแต่ละชนิดนั้น มีประโยชน์กับเราอย่างไรบ้าง



ยกตัวอย่างเต้าหู้นะคะ เต้าหู้มีประโยชน์มากมายหลายประการ มีทั้ง วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่สำคัญที่สุดคือ สารอาหารในเต้าหู้ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีระบบย่อยไม่ดี หรือแม้แต่เด็กเล็กที่ฟันยังงอกไม่สมบูรณ์ ก็สามารถกินเต้าหู้ได้

นอกจากนี้เต้าหู้ยังเหมาะกับสตรีวัยทอง เพราะ มีแคลเซียมมากกว่าผักและผลไม้หลายชนิด ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดี ทั้งยังมีสารที่ช่วยป้องกันอันตรายจากมะเร็งและลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ อีกด้วย

ผลจาการวิจัยยังบอกอีกว่าโปรตีนในถั่วเหลือง เป็นโปรตีนที่ดีช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป มีเส้นใยสูง และช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้

รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมหันมาดื่มนมถั่วเหลือง หรือทานเต้าหู้กันให้เยอะนะคะ เพื่อสุขภาพของเราค่ะ


-------------------------------------------

*เล็กๆน้อยๆนำมาฝาก*

ชื่อเมนู :: เต้าหู้ทรงเครื่อง

วัตถุดิบ

-เต้าหู้ (หั่นสี่เหลี่ยม)

-เนื้อกุ้งสด

-เนื้อหมูสับ

-เห็ดหอม

-ต้นหอมซอย

-แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก

-ข้าวโพดอ่อน

-มะเขือเทศหั่นเล็กๆ

-น้ำมันหอย

-ซีอิ๊วขาว

-น้ำตาลทราย

-กระเทียมสับ

-พริกไทย

-แป้งข้าวโพด (ละลายน้ำแล้วนะคะ)

-น้ำมันพืช (เอาไว้ทอดเต้าหู้ค่ะ)

~มาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ ~

1.ทอดเต้าหู้ให้เหลืองกำลังดีนะคะ ไม่ต้องสุกมาเกินไป เสร็จแล้วเอาขึ้นพักไว้ก่อนค่ะ

2.มาถึงวิธีทำน้ำราดกันนะคะ เทน้ำมันลงกระทะ ละตามด้วยกระเทียมสับค่ะ (คล้ายทำกระเทียมเจียว)

ใส่หมูสับ และ กุ้ง ลงไปตามลำดับ ผัดให้สุกนะคะ
3.ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วตามด้วย แครอท ข้าวโพดอ่อน มะเขือเทศ เห็ดหอม ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ปรุงรสตามใจชอบ
4.จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำแล้ว ลงไป คนไวๆนะคะ แป้งจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน พอเริ่มเหนียวก็ปิดไฟเอาลงจากเตาและใส่ต้นหอมซอยตามลงไป
5.นำมาราดบนเต้าหู้ที่ทอดเตรียมไว้ เป็นอันเสร็จค่ะ

**เนื้อสัตว์อาจเปลี่ยนหรือเพิ่มที่ชอบไปก็ได้นะคะ
วิธีอาจเยอะๆไปนิด แต่รับรองค่ะว่าทำง่าย มีประโยชน์และอร่อยด้วยค่ะ


Thank :: picture by BeamerFamily